เช็กด่วน ไอโฟนชาร์จแบตไม่เข้า เกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้ไข ที่ได้ผลจริง

ไอโฟนชาร์จแบตไม่เข้า

เป็นเรื่องน่าหงุดหงิด เมื่อเสียบชาร์จไอโฟน แล้วพบว่าแบตไม่เข้า โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาการชาร์จ มักเกิดจากสาเหตุทั่วไป เช่น สายชาร์จเสีย พอร์ตชาร์จสกปรก ปัญหาที่ตัวซอฟต์แวร์ หรือปลั๊กไฟมีปัญหา ซึ่งการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นง่ายๆ ก็มักจะช่วยให้เรา หาสาเหตุของปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

หลายคนเคยเจอปัญหานี้ แต่ส่วนใหญ่ วิธีแก้ไขนั้น ไม่ซับซ้อน และสามารถทำได้เองที่บ้าน โดยไม่ต้องให้ช่างช่วย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบความเสียหายของสายชาร์จ และอะแดปเตอร์ การรีสตาร์ทเครื่อง หรือการมองหาข้อความแจ้งเตือนต่างๆ การทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง จะช่วยประหยัด ทั้งเวลา และอาจรวมถึงเงินด้วย

ข้อควรรู้

  • การหาสาเหตุที่พบบ่อย คือ ขั้นตอนแรกในการแก้ปัญหาการชาร์จ
  • การแก้ปัญหาไปทีละขั้นตอน สามารถช่วยจัดการปัญหาการชาร์จไอโฟน ส่วนใหญ่ได้
  • หากลองแก้ปัญหาเบื้องต้นแล้ว ยังไม่ได้ผล ควรขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

สาเหตุทั่วไปที่ทำให้ไอโฟนชาร์จไม่เข้า

มีหลายสาเหตุ ที่ทำให้ไอโฟนชาร์จไม่เข้า อาจเกิดจากฮาร์ดแวร์เสียหาย, ความเสียหายทางกายภาพ หรือปัญหาที่ซอฟต์แวร์ของเครื่อง การจะหาสาเหตุที่แท้จริงต้องตรวจสอบทีละขั้นตอน ทั้งอุปกรณ์ชาร์จ และตัวเครื่องไอโฟนเอง

สายชาร์จ หรืออะแดปเตอร์มีปัญหา

สายชาร์จที่เสียหาย หรือคุณภาพต่ำ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อย ที่สุด ที่ทำให้ไอโฟนชาร์จไม่เข้า สายไฟที่ขาด, หัวปลั๊กที่งอ หรือขั้วต่อที่หลวม อาจขัดขวางการส่งพลังงานไปยังโทรศัพท์ได้ ผู้ใช้มักจะสังเกตเห็นความเสียหายภายนอก แต่บางครั้งปัญหาก็อยู่ภายใน ทำให้สายชาร์จ ใช้งานไม่ได้ แม้จะดูปกติก็ตาม

อะแดปเตอร์ก็เสียได้เช่นกัน หากอะแดปเตอร์ทำงานผิดปกติ ไอโฟนอาจตรวจไม่พบพลังงานเลย การลองเปลี่ยนสายชาร์จ หรืออะแดปเตอร์ไปใช้อันอื่นที่ได้รับการรับรองจาก Apple จะช่วยให้รู้ได้อย่างรวดเร็ว ว่าอุปกรณ์เดิมเสีย หรือไม่ คู่มือการแก้ปัญหาส่วนใหญ่ระบุว่า เพียงแค่เปลี่ยนสายชาร์จ หรืออะแดปเตอร์ ก็มักจะแก้ปัญหาการชาร์จได้แล้ว

สายชาร์จ และอะแดปเตอร์ที่เชื่อถือได้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการชาร์จเร็ว อุปกรณ์เสริมที่ไม่ได้รับการรับรองอาจทำงานกับอุปกรณ์ iOS ได้ไม่ถูกต้อง ทำให้ชาร์จได้ช้า หรือไม่สม่ำเสมอ ควรตรวจสอบเสมอว่า เสียบสายแน่นดีแล้ว ทั้งที่พอร์ต USB และเต้ารับบนผนัง

พอร์ตชาร์จสกปรก หรือเสียหาย

พอร์ตชาร์จที่สกปรก หรือมีสิ่งอุดตัน มักจะขัดขวางการส่งพลังงานระหว่างสายชาร์จ และตัวเครื่อง ฝุ่น, เศษผ้า หรือสิ่งสกปรกต่างๆ สามารถเข้าไปสะสมในพอร์ต ทำให้เสียบสายได้ไม่แน่น หรืออาจทำให้โทรศัพท์หยุดชาร์จไปเลย การใช้ไฟฉายส่องดูที่พอร์ต มักจะช่วยให้เห็นสิ่งอุดตัน ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น

ควรใช้แปรงขนนุ่ม ที่ไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต หรือแปรงสีฟันอันใหม่ ที่สะอาด ในการกำจัดเศษเล็กๆ ออก ห้ามใช้วัตถุที่เป็นโลหะ เช่น เข็มหมุด หรือคลิปหนีบกระดาษ เพราะอาจทำให้ขั้วต่อภายในเสียหายได้ ความเสียหายทางกายภาพ เช่น ขาพินในพอร์ตงอ หรือหัก ก็อาจทำให้โทรศัพท์ชาร์จไม่เข้า และอาจต้องให้ผู้เชี่ยวชาญซ่อม

การทำความสะอาดพอร์ตชาร์จ เป็นประจำ จะช่วยให้การชาร์จมีประสิทธิภาพสม่ำเสมอ หากทำความสะอาดพอร์ต และตรวจสอบว่า ไม่เสียหายแล้ว แต่ไอโฟนยังชาร์จไม่เข้า อาจเป็นสัญญาณของปัญหาฮาร์ดแวร์ที่ร้ายแรงกว่านั้น

ซอฟต์แวร์ หรือ iOS มีปัญหา

บางครั้งปัญหาการชาร์จ ไม่ได้เกิดจากความเสียหายทางกายภาพ แต่เกิดจากข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์ iOS ที่เก่าเกินไป หรือมีบั๊ก (bug) อาจรบกวนกระบวนการชาร์จ ทำให้โทรศัพท์ชาร์จไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น การรีสตาร์ทเครื่อง หรืออัปเดต iOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด สามารถแก้ปัญหาชั่วคราวเหล่านี้ได้

บางครั้งระบบที่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ใน iOS อาจหยุดชาร์จ เพื่อปกป้องฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะเมื่อโทรศัพท์ตรวจพบอุณหภูมิที่ผิดปกติ หรือความชื้นในพอร์ตชาร์จ ในบางกรณี แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ก็อาจทำให้เครื่องทำงานหนักเกินไป ส่งผลให้การชาร์จช้าลง หรือหยุดชะงักได้

ผู้ใช้ควรตรวจสอบการอัปเดต iOS เป็นประจำ และลองบังคับรีสตาร์ท (forced restart) หากเครื่องไม่ตอบสนอง ถ้าปัญหายังคงอยู่ หลังจากตรวจสอบ ทั้งฮาร์ดแวร์ และอุปกรณ์เสริมแล้ว อาจจำเป็นต้องล้างเครื่อง กลับไปเป็นการตั้งค่าจากโรงงาน

สุขภาพแบตเตอรี่เสื่อม

แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนทุกชนิด จะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา หลังจากผ่านการชาร์จหลายร้อยรอบ แบตเตอรี่ของไอโฟนอาจสูญเสียความจุ ทำให้ชาร์จได้ช้า, เก็บไฟไม่อยู่ หรือชาร์จไม่เข้าเลย อาการอื่นๆ ที่อาจพบได้ คือ เครื่องดับเอง โดยไม่คาดคิด หรือเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว

สามารถตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ได้ในแอป “การตั้งค่า” (Settings) > แบตเตอรี่ (Battery) > สุขภาพแบตเตอรี่ และการชาร์จ (Battery Health & Charging) หากเปอร์เซ็นต์ “ความจุสูงสุด” (Maximum Capacity) ต่ำมาก หรือระบบแสดงข้อความแนะนำให้เข้ารับบริการ แสดงว่าแบตเตอรี่น่าจะเสื่อมแล้ว

แบตเตอรี่ที่เสื่อม จะสร้างภาระให้กับ ทั้งตัวโทรศัพท์ และอุปกรณ์ชาร์จ การเปลี่ยนแบตเตอรี่ โดยผู้ให้บริการ ที่ได้รับอนุญาต มักจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ สำหรับไอโฟนรุ่นเก่า การลงทุนเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ จะช่วยให้การชาร์จกลับมาเป็นปกติ และยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้

วิธีแก้ปัญหาทีละขั้นตอน

ปัญหาการชาร์จ ที่พบบ่อย มักเกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์, สิ่งสกปรกที่สะสม หรือปัญหาซอฟต์แวร์ การแก้ไขในแต่ละส่วนสำคัญเหล่านี้ จะช่วยให้การชาร์จกลับมาเป็นปกติ และป้องกันความเสียหายที่ไม่จำเป็น

การตรวจสอบสายชาร์จ และแหล่งจ่ายไฟ

ขั้นแรก ผู้ใช้ควรตรวจสอบ ทั้งสายชาร์จ และอะแดปเตอร์ USB อย่างละเอียด มองหาความเสียหายที่มองเห็นได้ เช่น ปลายสายหลุดลุ่ย, ขาปลั๊กงอ หรือสายไฟโผล่ออกมา การสึกหรอเพียงเล็กน้อยของสาย ก็อาจรบกวนการเชื่อมต่อ และทำให้ไอโฟนชาร์จไม่เข้าได้

ลองนำสาย และอะแดปเตอร์ ไปใช้กับอุปกรณ์อื่น เพื่อทดสอบว่า ที่ชาร์จเสีย หรือไม่ และควรลองชาร์จไอโฟนกับเต้ารับอื่น หรือพอร์ต USB อื่นดู เพราะเต้ารับ หรือปลั๊กพ่วงบางอัน อาจเสื่อมสภาพตามเวลา หรือไม่สามารถจ่ายไฟได้สม่ำเสมอ

ควรใช้อุปกรณ์เสริมของแท้ หรือที่ได้รับการรับรองจาก Apple เท่านั้น สายชาร์จจากผู้ผลิตรายอื่น โดยเฉพาะที่ไม่ได้รับการรับรอง อาจให้การเชื่อมต่อที่ไม่เสถียร และบางครั้งทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการชาร์จได้

การทำความสะอาดพอร์ตชาร์จ

สิ่งสกปรก, เศษผ้า และฝุ่น มักจะเข้าไปสะสมในพอร์ตชาร์จของไอโฟน แม้แต่เศษเล็กๆ ก็สามารถขัดขวางการเชื่อมต่อระหว่างสาย และตัวเครื่องได้ ให้ใช้ไฟฉายส่องดูในพอร์ต เพื่อหาสิ่งอุดตัน

การทำความสะอาดพอร์ตชาร์จ ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ให้ปิดเครื่องก่อน แล้วใช้เครื่องมือที่ไม่ใช่โลหะ เช่น ไม้จิ้มฟันที่ทำจากไม้ หรือพลาสติก ค่อยๆ เขี่ยเศษฝุ่นที่มองเห็นได้ออกมา โดยหลีกเลี่ยงการใช้แรง ที่อาจทำให้ขั้วต่อภายในเสียหาย

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ลมกระป๋องอัดอากาศ เพราะอาจดันสิ่งสกปรกเข้าไปลึกกว่าเดิม หากพอร์ตยังดูเหมือนอุดตัน อาจต้องให้ช่างเทคนิคตรวจสอบเพิ่มเติม การทำความสะอาดเป็นประจำ จะช่วยรักษาการเชื่อมต่อที่ดี และประสิทธิภาพการชาร์จที่สม่ำเสมอ

การรีสตาร์ท หรืออัปเดตไอโฟน

บางครั้งปัญหาการชาร์จ เกิดจากข้อผิดพลาดเล็กน้อยของซอฟต์แวร์ การรีสตาร์ทไอโฟน สามารถแก้ไขบั๊ก (bug) ชั่วคราว หรือความขัดแย้งของระบบที่ขัดขวางการชาร์จได้

หากรีสตาร์ทแล้วยังไม่หาย ให้ตรวจสอบว่า มีอัปเดต iOS หรือไม่ การอัปเดตซอฟต์แวร์ มักจะมีการแก้ไขบั๊กที่เกี่ยวกับปัญหาความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ ซึ่งรวมถึงปัญหาการชาร์จด้วย ให้ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์ (Settings > General > Software Update) เพื่อดูว่ามีอัปเดต หรือไม่

การอัปเดตซอฟต์แวร์ของไอโฟน ให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ จะช่วยให้แน่ใจว่า เครื่องสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมสำหรับชาร์จ และแหล่งจ่ายไฟได้ หากอัปเดตแล้วปัญหายังคงอยู่ อาจบ่งชี้ถึงปัญหาฮาร์ดแวร์ที่ซับซ้อนกว่า ซึ่งอาจต้องให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือ

วิธีแก้ปัญหาขั้นสูง และความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

หากปัญหาการชาร์จไอโฟนยังคงอยู่ อาจจำเป็นต้องใช้วิธีขั้นสูงขึ้น หรือขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ การแก้ไขปัญหาซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อน, การให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ หรือการพิจารณาเปลี่ยนเครื่องใหม่ อาจเป็นทางออกสุดท้าย

การรีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด

หากวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นไม่ได้ผล การรีเซ็ตการตั้งค่า ทั้งหมดอาจช่วยได้ ขั้นตอนนี้ จะไม่ลบข้อมูลส่วนตัว แต่จะคืนค่าการตั้งค่าระบบ, รหัสผ่าน Wi-Fi และภาพพื้นหลังกลับไปเป็นค่าเริ่มต้น ผู้ใช้หลายคนพบว่าวิธีนี้ มีประโยชน์เมื่อเจอปัญหาซอฟต์แวร์ที่แก้ไขยาก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ชาร์จไม่เข้า

ในการรีเซ็ต ให้ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > ถ่ายโอน หรือรีเซ็ต iPhone > รีเซ็ต > รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยในการล้างค่าที่อาจขัดแย้งกัน ซึ่งการรีสตาร์ทเครื่องแบบปกติแก้ไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรเตรียมพร้อมที่จะใส่รหัสผ่าน Wi-Fi และตั้งค่าต่างๆ ใหม่อีกครั้ง แม้จะไม่ใช่วิธีที่รับประกันว่า จะแก้ปัญหาได้เสมอไป แต่การรีเซ็ตนี้ สามารถแก้ไขปัญหาที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นสาเหตุของการชาร์จไม่เข้าได้

การติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple

หากการแก้ปัญหาขั้นสูงยังไม่ได้ผล ขั้นตอนต่อไป คือ การขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ คุณสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนอย่างเป็นทางการของ Apple ได้ทางเว็บไซต์, โทรศัพท์ หรือผ่านแอป Apple Support ช่างเทคนิคของ Apple สามารถแนะนำขั้นตอนการตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งไม่มีเผยแพร่ทั่วไปได้

ผู้ใช้ควรเตรียมข้อมูลที่จำเป็น เช่น รุ่นของไอโฟน, เวอร์ชั่น iOS และสรุปวิธีแก้ไขที่ได้ลองทำไปแล้ว เพื่อให้กระบวนการช่วยเหลือรวดเร็ว และตรงจุดมากขึ้น

ฝ่ายสนับสนุนของ Apple อาจแนะนำให้นำเครื่องไปที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน เพื่อตรวจสอบสภาพเครื่องโดยละเอียด

การพิจารณาตัวเลือกการซ่อม หรือเปลี่ยนเครื่อง

หากไอโฟนยังคงชาร์จไม่เข้า แม้จะลองทุกวิธีแล้ว มีความเป็นไปได้สูงว่าฮาร์ดแวร์มีปัญหา ศูนย์ซ่อมที่ได้รับอนุญาตจาก Apple หรือช่างเทคนิค ที่ผ่านการรับรอง สามารถประเมินปัญหาได้ เช่น พอร์ตชาร์จเสียหาย, แบตเตอรี่เสีย หรือเมนบอร์ดมีปัญหา

ค่าซ่อมอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสถานะการรับประกัน อุปกรณ์ที่อยู่ภายใต้ AppleCare+ มักจะมีสิทธิ์ได้รับการซ่อม ในราคาพิเศษ หรืออาจได้รับการเปลี่ยนเครื่องใหม่ ในบางสถานการณ์ การซื้อเครื่องใหม่ อาจคุ้มค่ากว่า โดยเฉพาะสำหรับรุ่นเก่า ที่ผ่านการใช้งานมานาน

การพิจารณาทางเลือกในการซ่อม หรือเปลี่ยนเครื่อง จะช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม โดยพิจารณาจากอายุของอุปกรณ์, งบประมาณ และความรุนแรงของปัญหา

คำถามที่พบบ่อย

ปัญหาการชาร์จไอโฟนจำนวนมากเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น สายชาร์จเสีย, มีเศษขยะในพอร์ต หรือซอฟต์แวร์มีปัญหา ผู้ใช้อาจพบปัญหาหลังจากเครื่องโดนน้ำ หรือไม่แน่ใจว่าเครื่องจำเป็นต้องซ่อมจริงหรือไม่

ขั้นแรก ให้ตรวจสอบสายชาร์จ และอะแดปเตอร์ว่ามีความเสียหายที่มองเห็นได้ หรือไม่ ลองใช้สายชาร์จ, อะแดปเตอร์ หรือเต้ารับอื่นในการชาร์จไอโฟน ตามคำแนะนำของ Apple

ตรวจสอบว่ามีเศษผ้า หรือขยะในพอร์ตชาร์จ หรือไม่ จากนั้นให้รีสตาร์ทเครื่อง เพื่อตัดปัญหาซอฟต์แวร์ชั่วคราวออกไป หากทำตามขั้นตอนเหล่านี้ แล้วยังไม่ได้ผล ให้ลองทำตามขั้นตอนการแก้ปัญหาไอโฟนชาร์จไม่เข้า โดยละเอียด

เสียบสายชาร์จไอโฟนทิ้งไว้ เป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง หากไม่มีอะไรปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ให้ลองบังคับรีสตาร์ท (force restart)

หากอุปกรณ์ยังคงไม่ตอบสนอง ให้ลองติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple หรือไปที่ศูนย์บริการ ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจบ่งชี้ถึงปัญหาฮาร์ดแวร์ ที่ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ

ปิดเครื่องไอโฟน ก่อนทำความสะอาด ใช้เครื่องมือขนาดเล็ก ที่ไม่ใช่โลหะ เช่น ไม้จิ้มฟันที่ทำจากไม้ หรือพลาสติก ค่อยๆ เขี่ยเศษขยะออกจากพอร์ต

หลีกเลี่ยงการใช้วัตถุที่เป็นโลหะ หรือการยัดอะไรเข้าไปแรงๆ เพราะอาจทำให้ขาพินด้านในเสียหายได้ ผู้ใช้บางคนอาจใช้ลมอัดกระป๋องอย่างระมัดระวัง แต่ให้หลีกเลี่ยงการถือกระป๋องไว้ใกล้พอร์ตเกินไป

อย่าเสียบสายชาร์จไอโฟนทันที หลังจากโดนน้ำ ให้ปิดเครื่อง แล้วทำให้แห้งสนิทโดยการเคาะเบาๆ กับมือโดยให้พอร์ตชาร์จคว่ำลง

ปล่อยให้อุปกรณ์แห้งเองในที่แห้ง รออย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนลองชาร์จอีกครั้ง หากปัญหายังคงอยู่ แนะนำให้นำเครื่องไปให้ผู้เชี่ยวชาญประเมิน

ตรวจสอบพอร์ต เพื่อดูว่ามีเศษผ้า, สิ่งสกปรก หรือร่องรอยความเสียหาย หรือไม่ ค่อยๆ ทำความสะอาดเศษขยะออก ตามที่อธิบายไว้ข้างต้น

ลองใช้สายชาร์จ และอะแดปเตอร์อันอื่น หากยังชาร์จไม่ได้ ให้ไปที่ฝ่ายสนับสนุนของ Apple เพื่อดูวิธีแก้ปัญหาเพิ่มเติม หรือส่งเครื่อง เพื่อประเมินการซ่อม หากสงสัยว่าฮาร์ดแวร์เสียหาย

สาเหตุทั่วไป ได้แก่ สายชาร์จ หรืออะแดปเตอร์ชำรุด, มีเศษขยะในพอร์ตชาร์จ, ซอฟต์แวร์ล้าสมัย หรือฮาร์ดแวร์ขัดข้อง ปัญหาการชาร์จอาจเกิดจากปัญหาที่เต้ารับ หรือความชื้นในพอร์ต

บางครั้ง แบตเตอรี่ที่ผิดปกติ หรือปัญหาฮาร์ดแวร์ภายใน อาจทำให้ชาร์จได้ไม่ปกติ