มือถือ iPhone ดับเอง สาเหตุเกิดจากอะไร? มีวิธีแก้ไขอย่างไร ?
ซเชื่อว่าผู้ใช้งานโทรศัพท์ไอโฟนต้องเคยประสบกับปัญหามือถือไอโฟนดับเองในขณะที่คุณกำลังเล่นสมาร์ทโฟนอย่างเพลิดเพลิน โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาใหม่ ไม่นานก็ดับอีก จนทำให้ไม่สามารถใช้งานมือถือได้อย่างปกติ อาจสร้างความกังวลใจแก่ผู้ใช้งานอยู่ไม่น้อย ปัญหานี้อาจเกิดจาก มือถือรุ่นเก่าที่อัปเดตซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ หรือ ปัญหาเกี่ยวกับหน่วยความจำของเครื่อง เราจึงมีวิธีแก้ไขเบื้องต้น อาการโทรศัพท์ไอโฟนดับเอง ดังต่อไปนี้
1. ไอโฟนบังคับรีสตาร์ทเครื่อง ( Hard Reset )
วิธีการฮาร์ดรีเซ็ตเป็นการบังคับให้เครื่องรีสตาร์ทเมื่อเครื่องดับ ค้าง หรือไม่ตอบสนอง เพื่อให้มือถือได้ทำการรีบูทเครื่องขึ้นมาใหม่ วิธีนี้จะไม่ทำให้สูญเสียข้อมูลใดๆ โดยทำตามวิธีดังต่อไปนี้
วิธีการ Hard Reset iPhone ทำได้ดังนี้
- iPhone 6, 6s, 6 Plus, 6s Plus หรือรุ่นที่ต่ำกว่า
กดปุ่ม Home และปุ่มด้านข้างพร้อมกัน กดค้างไว้รอจนกว่าหน้าจอจะมีโลโก้ Apple ปรากฏ
- iPhone 7, 7 Plus
กดปุ่มลดเสียง และปุ่มด้านข้างพร้อมกัน กดค้างไว้จนกว่าหน้าจอจะมีโลโก้ Apple ปรากฏ 0868536619
- iPhone 8, 8 Plus, SE
กดปุ่มเพิ่มเสียง 1 ครั้งแล้วปล่อย กดปุ่มลดเสียง 1 ครั้งแล้วปล่อย และกดปุ่มด้านข้างค้างไว้จนกว่าหน้าจอจะมีโลโก้ Apple ปรากฏ
- iPhone X ขึ้นไป
กดปุ่มเพิ่มเสียง 1 ครั้งแล้วปล่อย กดปุ่มลดเสียง 1 ครั้งแล้วปล่อย และกดปุ่มด้านข้างค้างไว้จนกว่าหน้าจอจะมีโลโก้ Apple ปรากฏ
>> ปรึกษาอาการโทรศัพท์มือถือพัง คลิกเลย
2. ตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ ของโทรศัพท์
เมื่อเกิดปัญหามือถือไอโฟนดับเองขณะที่แบตเตอรี่ยังไม่หมด ปัญหาอาจเกิดจากอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลงหรือแบตเสื่อมนั่นเอง ดังนั้นจึงควรเข้าไปเช็คสุขภาพของแบตเตอรี่ก่อนสุขภาพความจุของแบตเตอรี่อยู่ที่เท่าไหร
โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings) -> แบตเตอรี่ (Battery) -> สุขภาพแบตเตอรี่ (Battery Health) แล้วเข้าไปดูรายงานความจุสูงสุดของแบตเตอรี่ว่าสามารถเก็บแบตเตอรี่ได้กี่เปอร์เซ็นต์
3. อัปเดตแอปพลิเคชันในมือถือ ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
บางครั้งข้อผิดพลาดอาจเกิดจาก Bug ของแอปพลิเคชันที่คุณกำลังใช้งานอยู่ ทำให้ส่งผลต่อการใช้งานได้ หากมีการอัปเดต iOS ตัวใหม่ แต่แอปพลิเคชันยังไม่ได้รับการอัปเดตให้ทำงานร่วมกับ iOS ล่าสุดได้ อาจทำให้เกิดปัญหามือถือดับขณะที่กำลังใช้งานแอปพลิเคชันนั้นๆ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบ และทำการอัปเดตแอปพลิเคชันให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
โดยเข้าไปที่ App Store ที่หน้าแรก -> ให้แตะรูปโปรไฟล์ Apple ID ที่มุมบนขวา -> เลือกอัปเดตแอปแต่ละแอป หรือจะเลือกอัปเดตแอปทั้งหมดก็ได้
4. รีเซ็ต โทรศัพท์มือถือ หรือ ล้างเครื่องใหม่
วิธีนี้จะเป็นการรีเซ็ตไอโฟนของคุณให้เป็นเครื่องใหม่ หรือการตั้งค่าทั้งหมดจะเหมือนตอนที่ออกมาจากโรงงาน มีผลทำให้ ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ เช่น รูปภาพ วีดีโอ และไฟล์ต่างๆ จะถูกลบทั้งหมด ดังนั้นก่อนทำการรีเซ็ตควรสำรองข้อมูลไว้ก่อน
วิธีการรีเซ็ต ไอโฟน ทำได้ดังนี้
เข้าไปที่ การตั้งค่า -> เมนูทั่วไป -> ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต iPhone -> แตะที่ ลบข้อมูลและการตั้งค่าทั้งหมด -> จากนั้นให้ใส่รหัสผ่าน Apple ID ของคุณ แล้วยืนยันว่าต้องการลบข้อมูลในเครื่องของคุณ อาจใช้เวลา 2-3 นาทีในการลบข้อมูลขึ้นอยู่กับมือถือของคุณ
หากลองทำตามวิธีที่แนะนำมาทั้งหมดแล้วยังไม่สามารถใช้งานได้ปกติ อาจเกิดจากปัญหาฮาร์ดแวร์ภายในตัวเครื่องเสียหาย แนะนำให้ตรวจสอบอายุประกันว่าหมดหรือยัง ถ้ายังไม่หมดประกันควรส่งศูนย์บริการเพื่อให้ศูนย์บริการได้ตรวจสอบอีกที แต่ถ้าหมดอายุประกันแล้ว แนะนำให้ส่งซ่อมที่ศูนย์ซ่อมหรือร้านซ่อม เพื่อให้ช่างที่มีประสบการณ์ได้ตรวจสอบภายในตัวเครื่องอย่างละเอียด ควรเลือกร้านที่ได้มาตรฐานและไว้ใจได้เพราะปัญหาภายในเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลทำให้การทำงานของเครื่องไม่ปกติได้
>> ติดต่อร้านซ่อมมือถือที่ดีที่สุด คลิกเลย